news world movies
สวัสดีครับวันนี้เราจะมารู้ถึงประวัติรางวัลออสก้าว่าเป็นมาอย่างไรครับ พร้อมกับภาพยนตร์เมืองคานและประวัติการประกาศผลรางวัลสุพรรณหงส์
สวัสดีครับวันนี้เราจะมารู้ถึงประวัติรางวัลออสก้าว่าเป็นมาอย่างไรครับ พร้อมกับภาพยนตร์เมืองคานและประวัติการประกาศผลรางวัลสุพรรณหงส์
รางวัลออสการ์
รางวัลออสการ์ (อังกฤษ: Oscar) หรือ อคาเดมีอวอร์ดส (อังกฤษ: Academy Awards) เป็นงานรางวัลทางภาพยนตร์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จัดโดยสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์ (อังกฤษ: Academy of Motion Picture Arts and Sciences หรือ อังกฤษ: AMPAS) เริ่มจัดครั้งแรกในปี ค.ศ. 1929 โดยในปี ค.ศ. 2014 จะเป็นงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 86 และจะจัดขึ้นในวันที่ 2 มีนาคม ที่ ดอลบี้เธียเตอร์ ใน ฮอลลีวูด

ประวัติ
พีธีมอบรางวัลออสการ์ครั้งแรกจัดขึ้นแบบงานเลี้ยงอาหารค่ำเล็กๆที่โรงแรม Roosevelt ในฮอลลีวู้ด บัตรเข้าชมราคา 5$ มีผู้ร่วมงานไม่ถึง 250 คน ปีต่อมาๆได้เปลี่ยนมาจัดที่โรงแรม Ambassador และโรงแรม Biltmore พีธีมอบรางวัลออสการ์ครั้งที่สองได้เริ่มมีการกระจายเสียงสดผ่านทางวิทยุ ต่อมาในปีค.ศ. 1953 จึงเปลี่ยนมาแพร่ภาพทางโทรทัศน์ขาวดำ มีผู้ชมหลายล้านคนในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ในปีค.ศ. 1966 พีธีมอบรางวัลได้แพร่ภาพทางโทรทัศน์สีเป็นครั้งแรก และมีการออกอากาศไปทั่วโลกตั้งแต่ปีค.ศ. 1969 เป็นต้นมา
ในช่วงทศวรรษแรก ธรรมเนียมปฏิบัติในการประกาศรางวัลสู่สาธารณชนจะทำโดยนำผลการตัดสินให้กับหนังสือพิมพ์ในเวลา 23 นาฬิกาของคืนวันงาน จนกระทั่งปีค.ศ. 1940 หนังสือพิมพ์ลอสเองเจลลิสไทม์แอบทราบผลการตัดสินและได้นำไปตีพิมพ์สู่สาธารณชนก่อนพิธีประกาศรางวัลจะเริ่มขึ้น นับแต่นั้นมา ผลการตัดสินจึงอยู่ในซองจดหมายที่ปิดผนึก
พิธีประกาศผลรางวัลออสการ์ได้จัดในหลากหลายสถานที่ ในแคลิฟอเนียร์ และได้ย้ายมาจัดที่ โกดักเธียเตอร์ ในปี ค.ศ. 2002 และเปลี่ยนชื่อเป็น ดอลบี้เธียเตอร์ จนถึงปัจจุบัน
รูปปั้น
ลักษณะ
รูปปั้นมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Academy Award of Merit เป็นรูปอัศวินถือดาบครูเสดเอาปลายแหลมลงดิน ยืนบนม้วนแผ่นฟิล์ม สูง 13 นิ้วครึ่ง (34 เซนติเมตร)หนัก 8 ปอนด์ครึ่ง (3.85 กิโลกรัม) ทำจากบริทานเนียมชุบด้วยทองคำบนฐานโลหะสีดำ ออกแบบโดย Cedric Gibbons ตรงส่วนฐานที่เป็นม้วนแผ่นฟิล์มนั่นจะเป็นที่จารึก 5 สาขาดั้งเดิมของรางวัลออสการ์ อันประกอบไปด้วย นักแสดง เขียนบท กำกับการแสดง อำนวยการสร้าง และด้านเทคนิค
การออกแบบ
Cedric Gibbons ซึ่งเป็นผู้กำกับศิลป์ของเอ็มจีเอ็มและเป็นหนึ่งในสมาชิกเก่าแก่ของออสการ์ เป็นผู้ออกแบบรูปปั้นรางวัลออสการ์ Cedric ได้ใช้เรือนร่างเปลือยของนักแสดงเม็กซิโกคนหนึ่งที่ Dolores del Río ผู้เป็นภรรยาของเขาได้แนะนำให้รู้จัก ชื่อว่า Emilio Fernández เป็นแบบในการทำรูปปั้น โดยมี George Stanley เป็นผู้ร่างแบบบนดินเหนียว และมี Sachin Smith เป็นผู้หล่อรูปปั้นโดยใช้ส่วนประกอบ ดีบุก 92.5% ทองแดง 7.5% และชุบด้วยทองคำ โดยในส่วนฐานของรูปปั้นได้เพิ่มเข้ามาในภายหลัง แต่เดิมฐานจะทำจากหินอ่อน ในปีค.ศ. 1945 จึงเปลี่ยนเป็นโลหะ
แม่พิมพ์ต้นฉบับของรูปปั้นออสการ์ทำขึ้นในปีค.ศ. 1928 ที่ C.W. Shumway & Sons Foundry ในบาทาเวีย รัฐอิลลินอยส์ ซึ่งแม่พิมพ์ของถ้วยรางวัลเอมมีและรางวัล Vince Lombardi Trophy ก็ทำขึ้นจากที่นี่เช่นเดียวกัน ในแต่ละปีรูปปั้นรางวัลออสการ์จำนวนประมาณ 40 อัน จะทำขึ้นที่ชิคาโก โดยบริษัท R.S. Owens หากมีรูปปั้นใดทำออกมาแล้วไม่มีคุณภาพ รูปปั้นนั้นจะถูกตัดเป็นสองท่อนแล้วนำไปหลอมละลาย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รูปปั้นรางวัลออสการ์ที่มอบให้กับผู้รับรางวัลจะทำจากปูนปลาสเตอร์ โดยจะให้รูปปั้นที่ทำจากทองคำหลังสงครามสิ้นสุด
ที่มาของชื่อ
ที่มาของคำว่า ออสการ์ นั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ กรณีแรก ในชีวประวัติของนักแสดงหญิงรางวัลออสการ์ชื่อ Bette Davis ได้อ้างว่าเธอเป็นผู้ตั้งชื่อให้กับรูปปั้นนี้ เนื่องจากด้านหลังของรูปปั้นนั้นดูคล้ายของสามีคนแรกของเธอที่ชื่อ Harmon Oscar Nelson เธอจึงใช้ชื่อกลางของเขาตั้งชื่อรูปปั้นว่า ออสการ์ ทางด้านนิตยสารไทม์ได้มีการกล่าวถึงคำว่า ออสการ์ ในบทความที่เกี่ยวกับงานประกาศผลอคาเดมีอวอร์ดสครั้งที่ 6 ในปี ค.ศ. 1934 และกล่าวถึงการรับรางวัลของ Bette Davis ในปี ค.ศ. 1936 นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงวอลต์ ดิสนีย์ ว่าเขาได้ขอบคุณอคาเดมีสำหรับรางวัลออสการ์ของเขาในต้นปี ค.ศ. 1932
กรณีที่สอง ได้มีการอ้างว่า Margaret Herrick เลขานุการผู้บริหารของอคาเดมี เป็นผู้ตั้งชื่อให้กับรูปปั้นนี้ ในปี ค.ศ. 1931 เธอเป็นคนแรกที่ได้เห็นถ้วยรางวัล เนื่องจากรูปปั้นนี้มีลักษณะคล้ายลุงของเธอ เธอจึงตั้งชื่อรูปปั้นนี้ตามชื่อลุงของเธอว่า ออสการ์ อย่างไรก็ตามทั้งคำว่า ออสการ์ และ อคาเดมีอวอร์ดส ต่างก็เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของสถาบันนี้
คืนวันมอบรางวัล
เป็นการถ่ายทอดสด โดยมากจะจัดหลังจากประกาศผู้เข้าชิงรางวัล 6 สัปดาห์ ดารานักร้องที่เข้าร่วมงานมักจะเดินบนพรมแดง แต่งชุดอย่างสวยงาม ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงาน นอกจากมีการมอบรางวัลต่างๆ ยังมีการแสดงเพลงจากผู้เข้าชิงรางวัลในสาขาเพลง มีการประมาณการว่า มีผู้ชมกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลก(ในปี 2546) ตัวงานได้แพร่ภาพออกทางโทรทัศน์ ในปี พ.ศ. 2496 ทางสถานี NBCจากนั้นจึงเปลี่ยนมือเป็นสถานี ABC ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519
รางวัลทั่วไป
ในปีค.ศ. 1949 ทางสถาบันได้เริ่มนับจำนวนรางวัลที่ได้มอบไป โดยเริ่มนับอย่างเป็นทางการที่รางวัลที่ 501 ตั้งแต่งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 1 จนถึงครั้งที่ 80 ได้มีการมอบรางวัลออสการ์ไปแล้ว 2,701 รางวัล และมีนักแสดงที่ได้รับรางวัล รวมทั้งผู้ที่ได้รับรางวัลเกียรติยศและรางวัลนักแสดงเยาวชน เป็นจำนวนทั้งสิ้น 293 คน
สาขารางวัลในปัจจุบัน
รางวัลต่างๆในปัจจุบันมีทั้งสิ้น 24 สาขา รางวัลใหญ่มี 5 รางวัล (Big Five) ได้แก่ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture), รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director), รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor), รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress) และ รางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay)
- ประเภทการสร้าง
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 ถึงปัจจุบัน
- ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Director) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 ถึงปัจจุบัน
- บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483 ถึงปัจจุบัน
- บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 ถึงปัจจุบัน
- ประเภทนักแสดง
- นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 ถึงปัจจุบัน
- นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 ถึงปัจจุบัน
- นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 ถึงปัจจุบัน
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Best Supporting Actress) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 ถึงปัจจุบัน
- ประเภทเทคนิคการถ่ายทำ
- กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม (Best Art Direction) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 ถึงปัจจุบัน
- กำกับภาพยอดเยี่ยม (Best Cinematography) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 ถึงปัจจุบัน
- ตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Film Editing) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 ถึงปัจจุบัน
- ประเภทเสียงและเทคนิคสมจริง
- เทคนิคสมจริงยอดเยี่ยม (Best Visual Effects) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2482 ถึงปัจจุบัน
- บันทึกเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound Mixing) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2473 ถึงปัจจุบัน
- ลำดับเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound Editing) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 ถึงปัจจุบัน
- ประเภทดนตรี
- เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Song) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2477 ถึงปัจจุบัน
- ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Score) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2477 ถึงปัจจุบัน
- ประเภทเครื่องแต่งกายและแต่งหน้า
- ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (Best Costume Design) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 ถึงปัจจุบัน
- แต่งหน้ายอดเยี่ยม (Best Makeup) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 ถึงปัจจุบัน
- ประเภทแอนิเมชั่น
- ภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม (Best Animated Feature) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 ถึงปัจจุบัน
- ภาพยนตร์แอนิเมชันสั้นยอดเยี่ยม (Best Animated Short Film) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2474 ถึงปัจจุบัน
- ประเภทสารคดี
- ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม (Best Documentary Feature)
- ภาพยนตร์สารคดีสั้นยอดเยี่ยม (Best Documentary Short Subject)
- ประเภทอื่นๆ
- ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best Foreign Language Film) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2490 ถึงปัจจุบัน
- ภาพยนตร์เหตุการณ์สั้น (ไลฟ์แอ๊กชั่น) (Best Live Action Short Film) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2474 ถึงปัจจุบัน
รางวัลที่ถูกยกเลิกไปแล้ว
- ผู้ช่วยผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Assistant Director)
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476 ถึงพ.ศ. 2480 ในปีแรกของการให้รางวัล (พ.ศ. 2476) มีผู้ได้รับรางวัล 7 คน จากผู้เข้าชิง 18 คน โดยไม่มีการอ้างถึงภาพยนตร์ที่กำกับโดยผู้เข้าชิงนั้นๆ แต่ในปีต่อๆมาก็ได้อ้างถึงภาพยนตร์ของผู้เข้าชิงด้วย จนกระทั่งปีพ.ศ. 2480 รางวัลนี้ก็ถูกยกเลิกไป
- ท่าเต้นยอดเยี่ยม (Best Dance Direction)
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 ถึงพ.ศ. 2480
- เทคนิคทางวิศวกรรมยอดเยี่ยม (Best Engineering Effects)
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 ถึงพ.ศ. 2471 รางวัลนี้มอบเพียงสองปีเท่านั้น หลังจากนั้นก็มีการมอบรางวัลบันทึกเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound Recording) แทน
- ดนตรีดัดแปลงหรือดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Score—Adaptation or Treatment)
- ดนตรีประกอบประเภทภาพยนตร์เพลงหรือตลกยอดเยี่ยม (Best Original Musical or Comedy Score)
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ถึงพ.ศ. 2546
- ภาพยนตร์สั้นประเภทสียอดเยี่ยม (Best Short Film—Color)
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 ถึงพ.ศ. 2480
- ภาพยนตร์สั้นประเภทเหตุการณ์ขนาด 2 ฟิล์มยอดเยี่ยม (Best Short Film—Live Action—2 Reels)
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 ถึงพ.ศ. 2499
- ภาพยนตร์สั้นประเภทใหม่ (Best Short Film—Novelty)
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 ถึงพ.ศ. 2478
- เรื่องราวดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Story)
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 ถึงพ.ศ. 2499 รางวัลนี้ถูกยกเลิกไปเนื่องจากเห็นว่าซ้ำซ้อนกับรางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมที่มีการมอบตั้งแต่พ.ศ. 2483
- การสร้างที่พิเศษและมีศิลปะยอดเยี่ยม (Best Unique and Artistic Quality of Production)
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 ถึงพ.ศ. 2471 รางวัลนี้มีการมอบเฉพาะในครั้งแรกเท่านั้น แล้วถูกยกเลิกในครั้งต่อมา เนื่องจากเห็นว่าซ้ำซ้อนกับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- การเขียนบทยอดเยี่ยม (Best Title Writing)
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 ถึงพ.ศ. 2471 รางวัลนี้มอบสำหรับภาพยนตร์ใบ้ที่มีการเขียนบทได้ยอดเยี่ยม เนื่องจากในสมัยดังกล่าวภาพยนตร์ยังไม่มีเสียง การอธิบายบทสนทนาของตัวละครจึงใช้วิธีแทรกไว้ระหว่างฉากการแสดง
- อื่นๆ
ในช่วงแรกของการให้รางวัล รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจะถูกแบ่งออกเป็นประเภทภาพยนตร์ดรามาและภาพยนตร์ตลก ส่วนรางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมจะถูกแบ่งออกเป็นประเภทภาพยนตร์ดรามาและภาพยนตร์เพลงหรือตลก ซึ่งปัจจุบันได้รวมเหลือรางวัลเดียว คือ รางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม
นอกจากนี้ ช่วงปีพ.ศ. 2473 - 2503 รางวัลกำกับภาพยอดเยี่ยม รางวัลกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม และรางวัลออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม ยังถูกแบ่งออกเป็นประเภทภาพยนตร์สีและภาพยนตร์ขาวดำ
รางวัลที่ไม่ผ่านการพิจารณา
ในแต่ละปีคณะกรรมการออสการ์จะพิจารณารางวัลสาขาใหม่ที่เสนอเข้ามา จวบจนปัจจุบัน มีรางวัลดังต่อไปนี้ที่ไม่ผ่านการพิจารณา
- คัดเลือกนักแสดงยอดเยี่ยม (Best Casting) – ไม่ผ่านการพิจารณาในปีพ.ศ. 2542
- ประสานงานการแสดงแทนยอดเยี่ยม (Best Stunt Coordination) – ไม่ผ่านการพิจารณาในปีพ.ศ. 2542 และพ.ศ. 2548
- ออกแบบไตเติ้ลยอดเยี่ยม (Best Title Design) – ไม่ผ่านการพิจารณาในปีพ.ศ. 2542
รางวัลพิเศษ
รางวัลพิเศษในปัจจุบัน
- รางวัลเกียรติยศ (Academy Honorary Award) มอบแด่ผู้มีผลงานดีเด่นในวงการ – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 ถึงปัจจุบัน
- รางวัลความสำเร็จเกียรติยศ (Academy Special Achievement Award) มอบแด่ผู้มีผลงานดีเด่นในวงการ
- รางวัลความสำเร็จทางเทคนิค และ วิทยาศาสตร์ (Academy Award, Scientific or Technical) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2474 ถึงปัจจุบัน
- รางวัลเอิร์ฟวิง จี. ธัลเบิร์ก (The Irving G. Thalberg Memorial Award) สำหรับผู้อำนวยการสร้างดีเด่น – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2481 ถึงปัจจุบัน
- รางวัลมนุษยธรรม ฌีน เฮอร์โชลต์ (The Jean Hersholt Humanitarian Award) สำหรับผู้ทำงานด้านมนุษยธรรม
- รางวัลกอร์ดอน อี. ซอว์เยอร์ (Gordon E. Sawyer Award) สำหรับผู้ประสบความสำเร็จในด้านเทคนิคการถ่ายทำ
รางวัลพิเศษที่ถูกยกเลิกไปแล้ว
- รางวัลนักแสดงเยาวชน (Academy Juvenile Award) มอบแด่นักแสดงวัยเยาว์ผู้มีบทบาทการแสดงดีเด่น – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2477 ถึง 2503
- รางวัลแดม เทคโนโลยี (DAM Technology Award) – มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 ถึง 2480
มีการจัดเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ขึ้นเป็นครั้งแรก

20 กันยายน พ.ศ. 2489 เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Festival de Cannes) หนึ่งในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่เมืองคานส์ ตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส โดยฌอง ซาอี (Jean Zay) รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ เห็นว่าเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิส (Mostra de Venise) ในช่วงทศวรรษที่ 1930s กำลังถูกแทรกแซงโดยรัฐบาลเผด็จการฟาสซิสม์ของอิตาลี จึงจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติของฝรั่งเศสขึ้นมาบ้าง ในที่สุดก็เลือกเมืองคานส์ซึ่งเป็นเมืองพักตากอากาศที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส โดยมี หลุยส์ ลูมิแยร์ (Louis Lumiere) เป็นประธานคนแรกในปี 2482 แต่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียก่อน จึงต้องยุติไว้ หลังจากสงครามสงบแล้วจึงรื้อโครงการนี้ขึ้นมาอีกครั้งในปี 2489 โดยจัดขึ้นครั้งแรกที่บ่อนกาสิโนเก่าแก่ที่เมืองคานส์ จากนั้นก็จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือนกันยายน ในปี 2494 เทศกาลได้เลื่อนมาเป็นเดือนพฤษภาคม ปัจจุบันจัดที่อาคาร Palais des Festivals et des Congres เมืองคานส์ มีภาพยนต์เข้าฉายที่เทศกาลนี้แล้วกว่า 3 หมื่นเรื่อง ภายในงานมีการประกวดภาพยนตร์ และตลาดซื้อขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ รวมไปถึงนิทรรศการและงานเสวนาด้านภาพยนตร์ แต่ละปีจะมีการมอบรางวัลใหญ่ได้แก่ รางวัล “Palme d’Or”(Golden Palm) นอกจากนี้ยังมีรางวัล “Grand Prix”, “Best Actress”, “Best Actor”, “Best Director”, “Best Screenplay”, “Jury Prize” และ “Best Short Film” ภาพยนตร์ไทยเรื่องเดียวที่ได้รางวัลจากเมืองคานส์ได้แก่ "สัตว์ประหลาด” (Tropical Malady) ผลงานของ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ได้รับรางวัล “Jury Prize" เมื่อปี 2547
รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์
รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ หรือ รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ เป็นรางวัลที่มอบให้แก่บุคคลในวงการผลิตภาพยนตร์ไทย ที่มีผลงานดีเด่นที่สุดในสาขาต่างๆ ในแต่ละปี โดยได้จัดให้มีพิธีมอบรางวัลนี้เป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2535 ประจำปี 2534 จัดโดยสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ

ประวัติ
หลังจากสมาคมผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ไทยลดถอยบทบาทการนำลง บุคลากรในวงการภาพยนตร์ไทยได้รวมตัวกันจัดตั้งองค์กรขึ้นใหม่ ให้เป็นองค์กรหลักที่สมาชิกเป็นตัวแทนขององค์กรย่อยและ ภาคส่วนต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ครบถ้วนยิ่งขึ้น โดยใช้ชื่อ สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ (The Federation of National Film Associations of Thailand) โดย ไพจิตร ศุภวารี เป็นนายกสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติคนแรก ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2534-2537
องค์กรนำของวงการภาพยนตร์ไทยว่างเว้นไม่ได้จัดการประกวดและมอบรางวัลสำหรับภาพยนตร์ไทยอยู่ประมาณ 3 ปี จึงได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง โดยสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ร่วมกับ คณะกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย (หน่อยงานในสำนักนายกรัฐมนตรี) และกรมประชาสัมพันธ์ ตามนโยบายรัฐบาลที่ได้ให้การสนับสนุนวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยจัดประกวด รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ ขึ้นทั้งนี้ไม่ถือเป็นรางวัลต่อเนื่อง รางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ ของสมาคมผู้อำนวยการสร้างแต่เป็นการเริ่มต้น จัดทำตัวรางวัลเป็นสัญลักษณ์ "ทางช้างเผือกสู่ดวงดาว" ซึ่งหมายถึง บุคคลที่สร้างผลงานภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยมและชนะเลิศในแต่ละประเภทรางวัล จนเป็นดาวดวงเด่นของปี
ในปี พ.ศ. 2556 สมาพันธ์ ได้เปลี่ยนวิธีการตัดสินภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัล โดยใช้คณะกรรมการตัดสิน 15 ท่าน ร่วมกับการลงคะแนนจากบุคคลในวงการภาพยนตร์ประมาณ 1,500 คน ในกลุ่มหลังจะแบ่งการลงคะแนนตามองค์ประกอบภาพยนตร์ในด้านต่างๆ โดยสามารถลงคะแนนผ่านทางเว็บไซต์ของสมาพันธ์ฯ หรือทางไปรษณีย์ โดยสัดส่วนคะแนนของทั้งสองกลุ่มจะอยู่ที่ 50:50
ลำดับงานประกาศผลรางวัล
ครั้งและปีที่จัด | วันที่ประกาศผล | สถานที่ประกาศผลและมอบรางวัล |
---|---|---|
ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2534 | วันที่ 25 มกราคม 2535 | ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ |
ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2535 | วันที่ 4 เมษายน 2536 | |
ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2536 | วันที่ 4 เมษายน 2537 | |
ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2537 | วันที่ 4 เมษายน 2538 | |
ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2538 | วันที่ 4 เมษายน 2539 | |
ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2539 | วันที่ 4 เมษายน 2540 | |
ครั้งที่ 7 พ.ศ. 2540 | วันที่ 4 เมษายน 2541 | |
ครั้งที่ 8 พ.ศ. 2541 | วันที่ 4 เมษายน 2542 | |
ครั้งที่ 9 พ.ศ. 2542 | วันที่ 4 เมษายน 2543 | |
ครั้งที่ 10 พ.ศ. 2543 | วันที่ 4 เมษายน 2544 | |
ครั้งที่ 11 พ.ศ. 2544 | วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2545 | ศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ |
ครั้งที่ 12 พ.ศ. 2545 | วันที่ 4 เมษายน 2546 | โรงภาพยนตร์สกาล่า |
ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2546 | วันที่ 9 มกราคม 2547 | โรงภาพยนตร์สกาล่า |
ครั้งที่ 14 พ.ศ. 2547 | วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 | โรงภาพยนตร์สกาล่า |
ครั้งที่ 15 พ.ศ. 2548 | วันที่ 4 มกราคม 2549 | บริเวณอนุสรณ์สถาน เรือตรวจการ 813 จังหวัดพังงา |
ครั้งที่ 16 พ.ศ. 2549 | วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2550 | สวนรัก อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา |
ครั้งที่ 17 พ.ศ. 2550 | วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2551 | โรงละครสยามนิรมิต |
ครั้งที่ 18 พ.ศ. 2551 | วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2552 | หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย |
ครั้งที่ 19 พ.ศ. 2552 | วันที่ 30 พฤษภาคม 2553 | โรงมหรสพหลวง ศาลาเฉลิมกรุง |
ครั้งที่ 20 พ.ศ. 2553 | วันที่ 6 มีนาคม 2554 | ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช พัทยา |
ครั้งที่ 21 พ.ศ. 2554 | วันที่ 29 เมษายน 2555 | โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย พารากอนซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน |
ครั้งที่ 22 พ.ศ. 2555 | วันที่ 1 มีนาคม 2556 | โรงละครแห่งชาติ |
ครั้งที่ 23 พ.ศ. 2556 | วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 | ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าพัทยา เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี |
ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2557 | วันที่ 1 มีนาคม 2558 | หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย |
ผลรางวัล
ครั้งและปีที่จัด | ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม |
---|---|
ครั้งที่ 1 (2534) | เวลาในขวดแก้ว |
ครั้งที่ 2 (2535) | อนึ่งคิดถึงพอสังเขป |
ครั้งที่ 3 (2536) | คนแซ่ลี้ |
ครั้งที่ 4 (2537) | กาลครั้งหนึ่งเมื่อเช้านี้ |
ครั้งที่ 5 (2538) | โลกทั้งใบให้นายคนเดียว |
ครั้งที่ 6 (2539) | เสียดาย |
ครั้งที่ 7 (2540) | 2499 อันธพาลครองเมือง |
ครั้งที่ 8 (2541) | รัก-ออกแบบไม่ได้ |
ครั้งที่ 9 (2542) | นางนาก |
ครั้งที่ 10 (2543) | |
ครั้งที่ 11 (2544) | มนต์รักทรานซิสเตอร์ |
ครั้งที่ 12 (2545) | 15 ค่ำ เดือน 11 |
ครั้งที่ 13 (2546) | คืนบาปพรหมพิราม |
ครั้งที่ 14 (2547) | โหมโรง |
ครั้งที่ 15 (2548) | มหา'ลัยเหมืองแร่ |
ครั้งที่ 16 (2549) | ก้านกล้วย |
ครั้งที่ 17 (2550) | รักแห่งสยาม |
ครั้งที่ 18 (2551) | Wonderful Town |
ครั้งที่ 19 (2552) | October Sonata รักที่รอคอย |
ครั้งที่ 20 (2553) | ชั่วฟ้าดินสลาย |
ครั้งที่ 21 (2554) | ลัดดาแลนด์ |
ครั้งที่ 22 (2555) | Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ |
ครั้งที่ 23 (2556) | ตั้งวง |
ครั้งที่ 24 (2557) | ภวังค์รัก |
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับรางวัลที่คนทำหนังอยากได้เพื่อความสำเร็จ ถ้าเป็นผมนะขอให้ได้ ออสก้า สักตัวคงดีใจแล้ว ได้สร้างชื่อให้กับไทยเราด้วย ไว้พบกันใหม่นะครับบ วันนี้ลาไปก่อนสวัสดีครับบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น